ครอบครัวคุณแม่จุ๋ม

คุณแม่ที่ยอมขับรถไปกลับสองร้อยกว่าโล เพื่อส่งนมแม่ให้ลูกทุกวันศุกร์ และกลับมาทำงานวันจันทร์เช้า สู่การเป็นโค้ชนมแม่ ที่เชื่อว่าความมุ่งมั่นให้ลูกได้กินนมแม่คือกุญแจแห่งความสำเร็จ

เครื่องปั๊มนมซื้อที่ไหนก็เหมือนกัน?

ตอนนั้นตั้งครรภ์อยู่ ก็คุยกับแฟนว่าอยากให้ลูกได้กินนมแม่ แต่เราไม่รู้เรื่องปั๊มนมเลย อ่านมาว่าเครื่องปั๊มนมอาจจะทำให้บาดเจ็บได้ เรารู้แค่นั้น เราจะใช้อะไรกับเต้าเรามันไม่ได้นะ ต้องเลือกให้ดีถึงจะมีหนังสือของป้าหมออยู่ในมือ แต่ในหนังสือก็ไม่มีบอกว่าจะปั๊มนมยังไง

เลยไปเดินงาน BBB เห็นร้านนมแม่ไปออกบูธที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่บอกตามตรง ทุกแบรนด์ที่ร้านนมแม่วางไม่เคยรู้จักเลยนะ ได้นั่งคุยกับโค้ชพี่ต่ายและโค้ชพี่หนอ่ย เราก็ถามเยอะ เพราะไม่รู้อะไรเลย ทีมโค้ชก็อธิบาย และให้คุณพ่อได้ลองเครื่องปั๊ม ลองที่แขนด้วย

วันนั้นก็ยังไม่ได้ซื้อ กลับมาหาข้อมูลต่อ แต่รอบๆ ข้างก็ไม่มีใครปั๊มนมเลยค่ะ แบบนี้เรายิ่งต้องมีคนคอยช่วย ก็คิดเราจำเป็นต้องมีโค้ชดูแลไหม พ่อก็บอกว่าไปหาโค้ชนมแม่ที่เคยคุยไหมล่ะ ที่ร้านนมแม่

ก็นัดไป เข้าไปคุยกับโค้ชพี่ต่าย พี่ต่ายให้ความรู้เยอะมากๆ เป็นความรู้ที่มาจากการดูแลเคสจริง เรารู้สึกว่าพี่ต่ายไม่เหมือนคนขายเครื่องปั๊มนมทั่วไปเลย รู้สึกมั่นใจกับคำว่าโค้ชนมแม่ตั้งแต่วันนั้นเลย

หลังจากคุยกันก็ได้ประเมินเต้าก่อน พอไปฟังโค้ชอธิบายก็รู้ว่าต้องใช้เครื่องที่เหมาะกับสรีระตัวเองมาค่ะ ตอนแรกเรากะเลือกแบบที่ถูกสุด แต่โค้ชดูสรีระแล้ว เค้าก็บอกความจริงกับเราว่าแม่เลือกไปอาจจะเสี่ยงบาดเจ็บได้ เราเชื่อค่ะ แล้วก็ได้เครื่องปั๊มนมที่เหมาะกับตัวเองมา

โค้ชประจำตัวของแม่ คือโค้ชพี่หน่อย กลับมาก็ลองแกะเครื่องปั๊มลองประกอบดู จริงๆ มีหนังสือ คุณแม่นักปั๊ม ทำทุกอย่างเพื่อลูก กับหนังสืออีก 2 เล่มด้วย แต่ยอมรับเลยว่าไม่ได้อ่านละเอียด หนังสือ ให้ลูกกินนมผงแน่ใจหรือ นี่ไม่ได้อ่านเลย เพราะเราไม่เอานมผง มั่นใจว่ายังไงเราก็ไม่ให้นมผง เรามั่นใจว่าจะมีนมพอ

โจทย์ใหญ่คือ ทำยังไงให้ลูกได้มีนมกิน เพื่อไม่ให้ลูกกินนมผง

วันคลอดคือ จำขึ้นใจว่า ต้องปั๊มให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้

แม่จุ๋มผ่าคลอดวันแรก ฟื้นตัวได้ก็ปั๊มกระตุ้นตลอดทุก 3 ชั่วโมงตามที่โค้ชบอก อยากให้นมมาไว ตอนนั้นไม่กังวลเลยว่าจะไม่มีนม ปั๊มแล้วส่งการบ้านพี่หน่อยตลอด

พอเข้าวันที่ 2 เต้าก็เริ่มคัดตึง ลูกก็เข้าเต้าได้ดีมาก แต่พยาบาลให้นมผงกับน้องวันแรกด้วยวิธีให้ขวด คือที่โรงพยาบาลนี้ไม่ได้สนับสนุนนมแม่เท่าที่ควรค่ะ แล้วให้ 2 ออนซ์นะคะ ไม่ได้ให้น้อยๆ แต่โชคดีที่น้องไม่ค่อยเอานมผง ไม่ค่อยเอาขวด กินน้อยมาก ตอนนั้นถ่ายรูปออกมาน้องหน้าตายู่ยี่ แบบอารมณ์ไม่ดีมาก คงแบบเอาอะไรมาให้กินเนี่ย

แต่พอได้เข้าเต้านะ น้องดูโอเคขึ้นมาก น้ำปั่นชอบเต้ามากๆ ค่ะน้ำนมยังไม่เยอะนะคะ ก็ค่อยๆ มา ลูกดูด ปั๊มกระตุ้นต่อ ไม่ท้อเลย เราคิดเสมอว่าเราอยากให้กินนมแม่

เรามีแฟนที่ดีมากๆ เราจับมือคุยกันแต่แรกเลยว่า เป้าหมายเราสองคนคือให้นมแม่ ตอนนั้นเค้าจะลางานมาดูแลเรา พอกำลังจะออกจากโรงพยาบาลเรามีความกังวลเรื่องเต้า ตอนนั้นนวดเคลียร์ นวดเต้าเองยังไม่เป็น เราเลยตัดสินใจไปร้านนมแม่ ไปที่ร้านพี่เนตรนวดกระตุ้นเต้านมให้ สอนให้แม่จุ๋มนวดเองให้เป็น พอกลับมาน้ำนมออกดีมากเลย

ช่วงนั้นลาคลอดเราก็อยากทำให้เต็มที่ ช่วงแรกหมอให้เสริมนมผงไปด้วย เราก็เสริมตามที่บอก แต่กินได้แค่กระป๋องเดียว สุดท้ายนมแม่ก็พอ เพราะเราก็เร่ง เอาเข้าเต้าตลอด จริงๆ ช่วงนั้นปั๊มน้อย แฮปปี้กับการที่ลูกดูดเต้ามาก

โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือ เมื่อกลับมาทำงาน จะทำอย่างไรให้ลูกได้กินนมแม่ล้วน?

เวลามันผ่านไปไวเสมอ พอถึงเดือนที่ 3 เริ่มเครียดกลัวนมไม่พอ นมสต๊อกน้อย เพราะเราสตาร์ทแพลนทำสต๊อกช้าเกินไป มาปรึกษาพี่หน่อยว่าจะให้นมผงดีไหม พี่หน่อยก็ตกใจ บอกว่า มาแพลนใหม่ ยังทัน

บางทีคุยไปก็ร้องไห้ไปนะ กลัวลูกได้กินนมผง เรารู้ว่ามันไม่ใช่ทางที่ตั้งใจเลย แต่เราแพลนช้า มันจะทันใช่ไหม พี่หน่อยนี่แหละบอกว่า มาแม่... เอาใหม่นะ พี่หน่อยช่วยดูรอบให้ น้ำปั่นต้องได้กินนมแม่นะ

จากนั้นทุกคืนก็ปั๊ม ส่งการบ้าน ให้กำลังใจ วนอยู่แบบนี้จนเริ่มมีสต๊อกนี่ถ้านับเป็นถุงคือ 1800 ถุงแล้วค่ะ ที่หมุนเวียนอยู่

พอต้องกลับมาทำงาน แม่ไปเติมสต๊อกวีคละ 30 ถุง แม่ต้องเดินทางไปหาน้องที่กาญจนบุรีทุกวันศุกร์ ที่ทำงานจะมีน้ำแข็งเกล็ด มีกระติกน้ำ เตรียมแพ็คนมทุกวันศุกร์ พร้อมส่งถึงน้องน้ำปั่น

มีคนบอกว่าไกลจัง ไหวเหรอ แม่ก็ตอบว่าระยะทางเท่าไหร่ก็ไม่ไกลสำหรับแม่ อะไรก็ทำได้เพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ ความสุขที่เราเลี้ยงลูกมันหาที่ไหนไม่ได้

เรื่องนมแม่ไม่ใช่เรื่องของแม่เพียงคนเดียว

ขอบคุณความบ้านมแม่ของตัวเอง คือมันเหนื่อยมากนะ อดหลับอดนอน ขับรถกว่าสองร้อยโล ไปเย็นวันศุกร์ เช้าวันจันทร์ต้องขับมา ไปหาลูก ไปส่งนมให้ลูก 3 คืนที่ได้ให้เต้ากับลูก มันคือความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้

ขอบคุณคุณพ่อที่ช่วยทุกอย่างเลยตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้

ขอบคุณร้านนมแม่ ขอบคุณโค้ชพี่หน่อยโค้ชพี่ต่ายที่ช่วยเหลือเราตลอด แนะแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ท้อกับเรา ไม่งั้นก็ไม่รู้จะไปทางไหนเลย

เคล็ดลับความสำเร็จฉบับแม่จุ๋ม ที่บอกคุณแม่ทุกคนเสมอ

อย่างแรกคือต้องมีความมั่นใจในตัวเอง นมต้องพอให้ลูก ต่อมาที่ความมุ่งมั่นตั้งใจเลย ความมุ่งมั่นไม่ใช่ความกดดันนะ แต่ต้องรู้ว่าเราทำอะไร เพื่อใคร

ถ้ามีเหตุที่น้ำนมจะลด เช่น มีคุณแม่ท่านนึงอาหารเป็นพิษต้องทานยาที่มีผล เราก็บอกว่า ลดตอนนี้ไม่เป็นไรเดี๋ยวกลับมา อย่าคิดว่าจะลด คุณแม่ท่านนี้แหละที่ตอนนี้น้องเป็นเด็กนมแม่ 100 % น้องน้ำหนักดีน่ารักมาก แม่ก็มีความสุขมากจริงๆ

ความมุ่งมั่นนี่แหละ บวกกับความมีวินัยนี่แหละที่จะทำให้สำเร็จ การให้นมแม่ มันมีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้นะ บีบมือ เคลียร์เต้า แม่ต้องฝึกทำ

ถ้าวันไหนท้อ ต้องดึงตัวเองกลับมาให้ได้ หาอะไรที่ทำให้เรากลับมาที่เส้นทางเดิม ความเครียดสำคัญมาก ความเครียดนี่แหละทำให้ออกซีโทซินไม่หลั่ง ต้องหาอะไรที่เหมาะกับตัวเอง

แม่จุ๋มชอบมากนะเวลาปั๊มนม มันคือช่วงเวลาแห่งความสุข ปั๊มไปวิดีโอคอลหาลูกไป ดูซีรีส์ไป มีเครียดช่วงเดียวคือช่วง 3 เดือนไม่มีสต๊อกนั่นแหละ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยความไม่ท้อ ไม่เอานมผง กับความช่วยเหลือของพี่หน่อยนี่แหละ

อยากสำเร็จง่ายขึ้นมาคุยกับโค้ชเถอะ

การเป็นโค้ชให้คุณแม่ หน้าที่ที่มากกว่าให้ความรู้ คอยวางแผน คือ ต้องคอยให้กำลังใจคุณแม่ด้วย “มาถึงวันนี้แม่เก่งแล้วนะ แม่สู้นะ” คือทำแบบเดียวกับที่พี่หน่อยให้กำลังใจเราเลย

คุณแม่ที่แม่จุ๋มดูแล แม่จุ๋มจะให้เลือกเส้นทางที่แม่โอเคที่สุด เป้าหมายที่ตรงกันคือให้ลูกได้กินนมแม่ แต่จะปั๊มจะเข้าเต้า มีสต๊อกไม่มีสต๊อก แล้วแต่แม่เลย แต่ละคนไม่เหมือนกัน

ถ้าเป็นคุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงาน เราก็จะใช้ความผิดพลาดตัวเองที่ไม่เคยคิดเรื่องสต๊อกนี่แหละคอยเตือนแม่ ไม่อยากให้มาฉุกละหุกตอนท้ายๆ

คำถามที่เจอบ่อยที่สุดคือ อยากได้นมเยอะๆ ทำไงดี? ต้องบอกว่าทารกแรกคลอด 7 วันแรก กระเพาะน้องคือเล็กนิดเดียวเอง 3 วันปั๊มได้ครึ่งออนซ์คือเก่งมากแล้ว แม่บางท่านก็อยากได้ 2 ออนซ์ เราจะบอกเสมอว่า แม่คะ ปริมาณที่ได้คือดีแล้ว ได้ครึ่งออนซ์นมแม่ ยังดีกว่า 1 ออนซ์นมผงกว่าไม่รู้เท่าไหร่ โค้ชแม่จุ๋มผ่านตรงนั้นมาแล้ว เครียดไปเปล่าๆ ปั๊มต่อดีกว่ามันเพิ่มเอง แม่ต้องทำต่อนะ ก็คอยบอกแม่

มีท้อบ้างนะบางวัน เวลาเจอคุณแม่บางท่านไม่ค่อยคุยกับโค้ช คือเรามีความรู้สึกเป็นห่วง บอกตามตรงว่ามีเคสที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีนะ  เพราะเราไม่ได้คุยกันเลย พอแม่ไม่ได้คุย เราก็ช่วยแม่ไม่ได้ บางทีสายเกินที่จะแก้ ตรงนี้แหละที่รู้สึกน้อยใจบ้าง ก็อยากให้แม่คุยค่ะ มีอะไรบอกได้ จะได้ช่วยกันทัน ขอแค่นี้เลยค่ะ

ปัจจุบันโค้ชแม่จุ๋ม โค้ชนมแม่ที่ดูแลคุณแม่หลายสิบราย และยังทำหน้าที่คุณแม่คนเก่งของน้องน้ำปั่นไปพร้อมๆ กัน โค้ชแม่จุ๋มได้เขียนเรื่องราวความรู้ ความประทับใจในเส้นทางสายนมแม่ที่ชวนอ่าน สามารถติดตามได้ที่เพจ ลูกแม่ต้องได้กินนมแม่ ค่ะ

---------------------------

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-184-8165

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนนัดรับบริการหรือปรึกษาเบื้องต้นทางโทรศัพท์